แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

ตะลุย Hidden Places ในโอซาก้ากันเถอะ!

Photo: ©Osaka Convention & Tourism Bureau

บทความนี้เป็น Advertorial Content เนื้อหา ข้อมูล และรูปภาพทั้งหมดมาจากผู้สนับสนุน เว็บไซต์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบใดๆ

อัพเดตล่าสุดเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2565

 

หากพูดถึงภูมิภาคคันไซแล้ว เมืองที่ทุกคนต้องไปเที่ยวให้ได้เลยก็คือ โอซาก้า เมืองใหญ่ของภูมิภาคนี้นั่นเอง ถ้าหากเพื่อนๆอยากจะอยู่เที่ยวที่โอซาก้าสัก 2-3 วัน แล้วยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ต้องถูกใจเพื่อนๆอย่างแน่นอน เพราะเรามีสถานที่น่าเที่ยวเด็ดๆในโอซาก้าที่น้อยคนนักจะรู้จักมาฝาก

อย่างที่ทุกคนรู้ ในแต่ละฤดูกาลที่ญี่ปุ่นก็จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่าช่วงไหนมีของดีของเด็ดอะไร ก็ตามมากันได้เลย

 

ช่วงเดือนพฤษภาคม  มิถุนายน ดอกไม้เบ่งบานและฤดูเก็บสตรอเบอร์รี่

ในช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเริ่มอุ่นขึ้น กิจกรรมที่แนะนำเลยก็คือการไปชมดอกไม้สวยๆ ถึงจะไม่ทันดอกซากุระที่บานในเดือนเม.ย. แต่ในเดือนพ.ค. ดอกไม้พันธุ์อื่นๆก็จะเริ่มบาน ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวจะถูกแต่งแต้มไปด้วยดอกไม้สีสวยนานาชนิด สวยงามไม่แพ้กันเลยล่ะ

แล้วถ้าใครอยากไปเก็บสตรอเบอร์รี่ กินสตรอเบอร์รี่สดๆหวานๆจากฟาร์มล่ะก็ ในเดือนพ.ค. ก็ยังมีให้เก็บอยู่นะ แต่ต้องรีบหน่อยแล้วล่ะ เพราะฟาร์มส่วนใหญ่จะเปิดให้เก็บสตรอเบอร์รี่ถึงเดือนพ.ค.เท่านั้น

เราได้ลิสต์สถานที่ชมดอกไม้สวยๆ และ ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ไว้ให้แล้ว ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

 

สถานที่แนะนำสำหรับชมดอกไม้ที่ โอซาก้า

สวนสาธารณะ Shirokita

สวนสาธารณะที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เต็มไปด้วยดอกไม้พันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูร้อนอย่างเดือนพ.ค.-มิ.ย. ดอกไอริสจะบาน ทั้งสวนจะเต็มไปด้วยสีขาว ฟ้า ม่วง สวยงามมากๆเลยล่ะ ซึ่งที่สวนแห่งนี้มีดอกไอริสกว่า 250 ชนิด รวม 13,000 ต้น

นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “Osaka Midori no Hyakusen” ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางธรรมชาติแห่งหนึ่งในโอซาก้าเลยทีเดียว

สวนสาธารณะ Shirokita

ที่อยู่: 3‐29‐1 Ikue, Asahi-ku, Osaka

การเดินทาง: จากสถานี JR Osaka Sta., สถานี Temmabashi Sta. สาย Subway และ Keihan Line, สถานี Miyakojima Sta. สาย Subway Tanimachi Line นั่ง City Bus มุ่งหน้าไปยัง Moriguchisoko-mae ลงป้าย shirokitaen-mae

เวลาทำการ : 9:30 – 17:00 (เข้าได้ถึงเวลา16:30)

ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 200เยน, เด็กอายุต่ำกว่า13ปี ฟรี(ต้องแสดงสิ่งที่ระบุตัวตนได้)

URL: http://www.osakapark.osgf.or.jp/shirokita/

 

 

สวน Tennoji:

สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของสวนสัตว์ Tennoji อีกทั้งภายในยังมี Osaka City Museum of Fine Art, สุสานโบราณ และสวนแบบญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับครอบครัว คนรักหรือเพื่อนๆได้

สวนแห่งนี้ จะมีดอกไอริสบานสะพรั่งในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. ใกล้กับสวนแบบญี่ปุ่น “Keitakuen” สวยมากๆเลยล่ะ

สวน Tennoji

ที่อยู่: 1-108 Chausuyamacho, Tennoji-ku, Osaka

การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Tennoji Sta. สาย JR Osaka Loop Line

เวลาเปิดทำการ

สวน Tennoji :  7:00 – 22:00  (ไม่มีวันหยุด)

สวนสัตว์ Tennoji : 9:30 – 17:00 (เข้าได้ถึงเวลา16:30)  เสาร์, อาทิตย์, และวันหยุดราชการของเดือน พ.ค. และ ก.ย. : 9:30 – 18:00 (เข้าได้ถึงเวลา17:00) หยุดทุกวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะหยุดชดเชยในวันถัดไป)

Osaka City Museum of Fine Art : 9:30 – 17:00 (เข้าได้ถึงเวลา16:30) วันหยุด : หยุดทุกวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะหยุดชดเชยในวันถัดไป),หยุดสิ้นปีและปีใหม่, ระยะเวลาการเตรียมงานแสดงนิทรรศการ

ค่าเข้าชม :

สวน Tennoji :  ฟรี

สวนสัตว์ Tennoji : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก(อายุระหว่าง6-13ปี) 200 เยน, เด็กเล็ก(อายุต่ำกว่า6ปี) ฟรี

Osaka City Museum of Fine Art : ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย/นักศึกษา 200 เยน, อายุต่ำกว่า15ปี ฟรี(ต้องแสดงสิ่งที่ระบุตัวตนได้)

URL: http://www.city.osaka.lg.jp/contents/wdu170/tennojizoo/top-en.html

 

 

สวน Tsurumi Ryokuchi:

เป็นสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ทำให้สวนของที่นี่มีดอกไม้บานเกือบตลอดทั้งปีเลยล่ะ และถ้าหากไปตอนเดือนมิ.ย. อย่าลืมไปดูดอกอะจิไซด้วยนะ

นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนมี.ค.-พ.ย. ที่นี่มีคอร์สบาร์บีคิวให่เพื่อนๆไปย่างบาร์บีคิวได้อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลย>> http://digiq.jp/tsurumibbq/

สวน Tsurumi Ryokuchi

ที่อยู่: 2-163 Ryokuchikoen, Tsurumi-ku, Osaka

การเดินทาง: อยู่ติดกับสถานี Tsurumi Ryokuchi Sta. สาย Subway Nagahori Tsurumi-ryokuchi Line

URL: http://www.tsurumi-ryokuchi.jp/

 

ขอบอกว่าแต่ละที่บรรยากาศดี สวยงามทั้งนั้น รับรองว่าเพื่อนๆจะได้รูปสวยๆกลับมาลงโซเชียลเก๋ๆกันแน่นอน

 

 

สถานที่แนะนำสำหรับเก็บสตรอเบอร์รี่

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Izumi Ogawa:

ฟาร์มเก็บสตรอเบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดในแถบคันไซ และถ้าหากจองล่วงหน้า ก็สามาถทำขนมหวานจากสตรอเบอร์รี่ได้อีกด้วย แต่เนื่องจากการจองทำได้เพียงทางโทรศัพท์ ทางเราเลยขอแนะนำให้ลองปรึกษากับทางโรงแรมที่เพื่อนๆพักให้ลองโทรติดต่อให้ก็ได้นะ

เบอร์โทรศัพท์ในการจอง: 0725-92-3310

“หมดเวลาเก็บสตรอเบอร์รี่แล้ว แต่ยังอยากอีกจัง!” หากเพื่อนๆมีความคิดนี้ขึ้นมาล่ะก็ เพื่อนๆยังสามารถซื้อสตรอเบอร์รี่กลับบ้านไปกินต่อได้อีกด้วย และในวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะมีขายขนมหวานที่ทำจากสตรอเบอร์รี่ด้วยล่ะ

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Izumi Ogawa

ที่อยู่: 2043 Butsunami-cho, Izumi

เบอร์โทรศัพท์: 0725-92-3232 (9:00 – 17:00)

วันเวลาทำการ: วันพุธ, เสาร์, อาทิตย์, วันหยุดราชการ 10:00 – 15:00

*เข้าได้ถึง 14:30

ค่าใช้จ่าย: บุฟเฟต์ 30 นาที (ต้องจองล่วงหน้า)

อายุ 13 ปีขึ้นไป ¥1,500 , อายุ 6-12 ปี ¥1,300 , อายุ 2-5 ปี ¥900

URL: http://kogawa-ichigo.com/

 

 

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Sakai:

ฟาร์มเก็บสตรอเบอร์รี่ในเมือง Sakai ที่อยู่ติดกับโอซาก้า การเดินทางง่ายและสะดวก เพราะสามารถนั่งรถไฟไปได้ และฟาร์มแห่งนี้มีสตรอเบอร์รี่ถึง 6 สายพันธุ์ ได้แก่ Akihime, Benihoppe, Toukun, Yotsuboshi, Kaorino และ Ai Berry ซึ่งเพื่อนๆสามารถลิ้มลองหลายรสชาติความอร่อยของสตรอเบอร์รี่ได้อีกด้วย

และที่นี่ยังมีบริการฟรีนมข้นหวานและช็อคโกแลต เอาไว้ให้จุ่มกินคู่กับสตรอเบอร์รี่ได้ด้วยนะ

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Sakai

ที่อยู่: 6-2-7 Kitanagaocho, Kita, Sakai, Osaka Prefecture 591-8043, Japan

เบอร์โทรศัพท์: 090-3275-4415, 070-5347-4115, 090-3281-4115 (12:00 – 17:00)

วันเวลาทำการ: ตรวจสอบได้จากปฏิทินในเว็บไซต์ http://www.ichigonosakai.com/picking.html#cshow

ค่าใช้จ่าย: บุฟเฟต์ 30 นาที (ต้องจองล่วงหน้า)

11 กุมภาพันธ์ – 8 เมษายน        อายุ 13 ปีขึ้นไป ¥2,500 , อายุ 6-12 ปี ¥1,500 , อายุ 2-5 ปี ¥1,000

11 เมษายน – 30 พฤษภาคม      อายุ 13 ปีขึ้นไป ¥2,000 , อายุ 6-12 ปี ¥1,500 , อายุ 2-5 ปี ¥1,000

มีบริการช็อคโกตและนมข้นหวานทานคู่กับสตรอเบอร์รี่

URL: http://www.ichigonosakai.com/

 

ในส่วนของด้านที่พัก ช่วงต้นเดือนพ.ค.จะมีช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น หรือ Golden Week เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ราคาห้องพักจะค่อนข้างสูง และโรงแรมส่วนใหญ่จะเต็มเร็วมาก เพราะฉะนั้นถ้าใครมีแพลนจะไปเที่ยวช่วงนี้ ต้องเตรียมตัวจองที่พักตั้งแต่เนิ่นๆเลยนะ

ส่วนเดือนมิ.ย. จะไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (Off Season) ราคาห้องพักในช่วงนี้จะถูกลงกว่า 20% เลยทีเดียว

 

ช่วงเดือนกรกฎาคม Sale ลดกระหน่ำ สายช้อปต้องมา!!

หน้าร้อนของญี่ปุ่นถือเป็นสวรรค์ของนักช้อปทั้งหลายเลยล่ะ ยิ่งช่วงเดือนก.ค.นั้น ทุกห้างจะร่วมใจลดราคากระหน่ำ Summer Sale มองไปทางไหนก็เจอแต่ป้าย Sale ตัวโตๆ อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า เวลาที่ญี่ปุ่น Sale เนี่ย บอกได้เลยว่า Sale แบบสุดๆ รับรองว่างานนี้มีโปรโมชั่นเด็ดๆเพียบ! ใครที่เป็นขาช้อปต้องมาช่วงนี้เลย!

ที่โอซาก้าก็มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย ทางเราได้ลิสต์มาให้เพื่อนๆแล้ว ไปดูกันได้เลย~

  • ห้างสรรพสินค้า Takashimaya: ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของเมืองโอซาก้า ครบครันไปด้วยร้านค้ามากมาย แถมห้างแห่งนี้ยังเชื่อมต่อกับโรงแรม Swissôtel Nankai Osaka อีกด้วย
  • ห้างสรรพสินค้า Kintetsu
    • สาขา Abeno Harukas: สาขานี้ตั้งอยู่บนตึก Abeno Harukas ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโอซาก้า ด้านบนของตึกยังเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของชาวโอซาก้าอีกด้วย
    • สาขา Uehonmachi
  • Namba Parks: ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรพร้อมด้วยสวนสาธารณะลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิด
  • ห้างสรรพสินค้า 0101 Namba Marui: ศูนย์รวมแบรนด์แฟชั่นทันสมัย ภายในห้างมีการตกแต่งด้วยงานศิลปะ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานกันระหว่างแฟชั่นและศิลปะ
  • ห้างสรรพสินค้า Daimaru
  • ห้างสรรพสินค้า Hankyu Umeda: ห้างสรรพสินค้าอยู่ติดกับสถานีรถไฟ เดินทางสะดวก ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นต่างๆมากมาย รวมไปถึงร้านอาหารเด็ดๆอีกเพียบ
  • ห้างสรรพสินค้า Hanshin Umeda: นอกจากที่นี่จะมีร้านค้าแฟชั่นและอาหารมากมายแล้ว ที่นี่ยังมี Hanshin Tigers Shop ร้านขายของที่ระลึกของทีมเบสบอล Hanshin Tigers แฟนๆกีฬาเบสบอลต้องไปให้ได้เลย
  • หมู่บ้านอเมริกา: หรือที่หนุ่มสาวเรียกกันว่า “อาเมมูระ” เป็นสถานที่ช้อปปิ้งสุดแนว ศูนย์รวมแฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล่าวัยรุ่น เรียกได้ว่าเป็น “ฮาราจูกุแห่งโอซาก้า” เลยล่ะ

 

 

ช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน เดือนแห่งการถ่ายภาพ!!

ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. ถือว่าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูใบไม้ร่วง และแน่นอนว่าบรรยากาศก็โรแมนติกสุดๆ เหมาะกับการครอบครัวหรือคนรักไปถ่ายรูป

สาวๆคนไหนที่อยากได้รูปถ่ายสวยๆ บรรยากาศดีๆ แนะนำให้ไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพราะไม่ว่าจะถ่ายซักกี่รูป ก็สวยทุกรูป รับรองว่าโดนใจแน่นอน!!

และนอกจากบรรยากาศโรแมนติกที่เหมาะกับการถ่ายรูปแล้ว อาหารการกินในช่วงฤดูนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน

วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสถานที่รอบๆโอซาก้าที่สามารถถ่ายรูปสวยๆได้อย่างจุใจ และร้านอาหารที่อร่อยและน่าทานเหมาะกับการถ่ายรูปอวดเพื่อนๆลง Facebook หรือ Instagram กัน

 

สถานที่แนะนำสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี

Osaka Castle Park

สวนสาธารณะที่เป็นที่ตั้งของหอคอยปราสาทโอซาก้า เป็นสถานที่ที่ชาวโอซาก้านิยมมาดูดอกบ๊วยและดอกซากุระบาน และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็สวยไม่แพ้กัน ปราสาทอันเก่าแก่กับใบไม้เปลี่ยนสีที่เข้ากันอย่างลงตัว ใครได้มาถ่ายรูปที่นี่ล่ะก็ไม่ผิดหวังแน่นอน!

และใกล้ๆสวนนี้ยังมี Miraiza Osaka-Jo สามารถเห็นทิวทัศน์หอคอยปราสาทโอซาก้าได้ และเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการช้อปปิ้งและทานอาหารอีกด้วย (เว็บไซต์ Miraiza Osaka-Jo : https://en.miraiza.jp/)

Osaka Castle Park

ที่อยู่: Osakajo, Chuo-ku, Osaka

การเดินทาง:

ใกล้กับสถานี Temmanbashi Sta. และสถานี Tanimachi 4-chome Sta. สาย Tanimachi Line

ใกล้กับสถานี Morinomiya Sta. และสถานี Tanimachi 4-chome Sta. สาย Chuo Line

ใกล้กับสถานี Morinomiya Sta,. Osakajokoen Sta. สาย JR Loop Line

URL: http://osakacastlepark.jp/foreinger/english.html (English)

 

 

Meiji no Mori Mino Quasi-National Park

วนอุทยานแห่งชาติอันลือชื่อของโอซาก้า ความงดงามทางธรรมชาติที่สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของฤดูกาลทั้งสี่ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในปลายฤดูใบไม้ร่วงจะงดงามเป็นพิเศษ โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่น้ำตกอันสวยงามกับใบไม้สีเหลืองอร่ามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ออกมาเป็นภาพที่สวยงามให้ทุกคนได้ชมกัน วนอุทยานแห่งนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมืองโอซาก้าสักหน่อย แต่ถ้ามาที่นี่ เพื่อนๆจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริง ป่าใหญ่และธรรมชาติแบบนี้ หาในใจกลางเมืองไม่ได้แน่นอน

Meiji no Mori Mino Quasi-National Park

ที่อยู่: 1-18 Mino-Koen, Mino City, Osaka Pref.

การเดินทาง: Minoh Sta/Hankyu MInoh Line หรือนั่งรถเมล์จาก Senrichuo Sta/MIdosuji line ลงป้าย Minoeki

URL: http://www.mino-park.jp/

 

 

Katsuoji Temple

 

วัดแห่งชัยชนะ ว่ากันว่าการนมัสการด้วยการถวายตุ๊กตา Daruma (มาจากภาษาสันสกฤตที่ว่า “ธรรมะ”) ที่วัด Katsuoji แห่งนี้จะทำให้ผู้นั้นประสบความสำเร็จ และเอาชนะความอ่อนแอของตนเองได้

วัดแห่งนี้ ในฤดูใบไม้ผลิก็มีดอกซากุระบาน ในฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้เปลี่ยนสีส้มเหลือง งดงามมากๆ และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนี้ที่นี่ยังมีการเปิดไฟตกแต่งในช่วงกลางคืนอีกด้วย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย>>

 

 

Katsuoji Temple

ที่อยู่: 2914-1 Aomatani, Minoh, Osaka Prefecture 562-8508, Japan

ค่าใช้จ่าย: ตุ๊กตา Daruma ¥2,000/คน

ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ ¥400 , เด็ก ¥300

เวลาเปิดทำการ:

วันธรรมดา 8:00-17:00

วันเสาร์ 8:00-17:30

วันอาทิตย์และวันหยุดราชการ 8:00-18:00

URL:

 

 

ร้านอาหารแนะนำ

Meat Camp

ร้านอาหารสไตล์ “Glamping” ไม่ซ้ำใคร ได้มาทานอาหารที่นี่ก็เหมือนได้ไปตั้งแคมป์หรูๆเลยล่ะ

อาหารก็มีทั้งของคาว ของหวานและของทานเล่น แต่ละจานได้รับการตกแต่งอย่างเอกลักษณ์สไตล์แคมปิ้ง จนอดใจไม่ไหวต้องหยิบกล้องมาถ่ายรูปเลยล่ะ!

Meat Camp

ที่อยู่: 5-4 Doyamacho, Kita, Osaka

การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี JR Osaka Sta., สถานี Umeda Sta. สาย Hankyu, สถานี Umeda Sta. สาย Hanshin, สถานี Umeda สาย Subway Midosuji Line

เวลาทำการ: 11:00 – 2:00

วันหยุด: ไม่มีวันหยุด

URL: http://meat-camp.com/

 

 

JTRRD cafe

 

คาเฟ่ต์ชิคๆ ภายในร้านตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด ที่ประสาน “ความงาม” และ “ศิลปะ” เข้าด้วยกัน

ของหวานที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามจนไม่กล้าทาน เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียลมากๆ มีสีสันสวยงามที่เติมแต่งจากสารสกัดธรรมชาติล้วนๆ ทั้งสวยและดีต่อสุขภาพอีกด้วย

ภายในร้านยังมีการขายกระเป๋า Handmade อีกด้วย เพื่อนๆห้ามพลาดเลย

JTRRD cafe

ที่อยู่: 3-4-5, Temma, Kita-Ku, Osaka-shi, Osaka

เวลาทำการ: 12:00 – 17:00

วันหยุด: ไม่แน่นอน

URL: http://www.jtrrd.com/index.html

 

 

ช่วยให้การเดินทางของเพื่อนๆทุกคนสะดวกสบายยิ่งขึ้น

karaksa hotel Osaka Namba

โรงแรม karaksa hotel Osaka Namba เพิ่งเปิดทำการไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017  มีจำนวนห้องพักถึง 112 ห้อง มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น ทันสมัย

มีห้องหลากหลายประเภทรวมถึงคอนเน็กติ้งรูม ห้องพักที่มีประตูภายในเปิดทะลุถึงกันได้ สามารถเข้าพัก ได้สูงสุด6คน เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวแบบครอบครัวหรือมาเที่ยวกับเพื่อนหลายๆคน ห้องพักก็ใหม่ สะอาด กว้างขวาง

เพื่อนๆสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจได้เลยล่ะ

 

โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ย่านหมู่บ้านอเมริกา ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับหนุ่มสาว และยังสามารถเดินไปย่านช้อปปิ้งอย่าง Dotonbori และ Shinsaibashi ได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย

นอกจากความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ก็เรียกได้ว่า ครบครัน มากๆ

บริการภายในโรงแรม

  • แผนกต้อนรับเปิดตลอด 24 ชม.
  • มีพนักงานชาวต่างชาติ
  • บริการรับฝากสัมภาระฟรี

  • ฟรีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์สไตล์ตะวันตก
  • มีบริการเครื่องดื่มและของหวาน ฟรี (14:00-21:00)

  • มีบริการเครื่องซักผ้า / ตู้น้ำหยอดเหรียญ / ส่งพัสดุ
  • สำหรับผู้พิการ มีพื้นที่จอดรถและมีการอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงได้ทั่วทั้งโรงแรม ฯลฯ (จำนวน1ช่อง ,ต้องจองล่วงหน้า)

ส่วนห้องพักก็มีพื้นที่กว้างขวาง มีประเภทห้องตั้งแต่สำหรับ 2-3 ท่าน ไปจนถึง 6 ท่าน ซึ่งเป็นห้องที่สามารถเชื่อมถึงกันได้ เหมาะสำหรับการมาแบบทั้งครอบครัวเลย

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก

  • ฟรี Wi-Fi
  • เต้าเสียบสากล
  • ห้องอาบน้ำแยกกับห้องสุขา ฯลฯ

เพื่อนๆคนไหนที่ต้องการที่พักที่อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ห้องพักสะอาดและสะดวกสบาย โรงแรม karaksa hotel Osaka Namba ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่แนะนำเลยนะจ๊ะ

 

นอกจากนี้ ในแถบโอซาก้า ยังมีโรงแรม karaksa hotel สาขาอื่นๆอีก 2 สาขา คือ โรงแรม karaksa hotel Osaka Shinsaibashi I และ โรงแรม karaksa Spring hotel Kansai Air Gate ซึ่งโดยรวมจะมีบริการที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละสาขา อย่างเช่น

โรงแรม karaksa hotel Osaka Shinsaibashi I มีบริการห้องละหมาดสำหรับชาวมุสลิม อีกทั้งยังมีพื้นที่พักผ่อนให้ทุกคนได้นั่งเล่นกันได้ ซึ่งในพื้นที่นี้จะมีบริการไมโครเวฟ เครื่องกดน้ำร้อน ตู้น้ำหยอดเหรียญ เก้าอี้นวด และกาชาปอง!!

 

 

โรงแรม karaksa Spring hotel Kansai Air Gate มีเครื่องแลกเปลี่ยนเงินตราอัตโนมัติ ใครแลกเงินมาไม่พอ ก็มาใช้บริการของที่นี่ได้นะจ๊ะ

แต่ที่พิเศษสุดๆก็คือ โรงแรม สาขานี้มีบริการ Shuttle Bus ฟรีระหว่างสนามบินและโรงแรมอีกด้วย สามารถดูตาราง

Shuttle Bus ได้ที่นี่เลย >> https://karaksahotels.com/en/kansai/facility/

 

หายห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทางจะเป็นภาระได้เลย เพราะเมื่อถึงสนามบินคันไซก็สามารถนั่ง Shuttle Bus มาลงที่โรงแรมและฝากกระเป๋าเดินทางได้ทันที หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวรอบโอซาก้าได้อย่างสบายใจเลยล่ะ

 

 

พอจะได้ไอเดียในการวางแผนเที่ยวโอซาก้าครั้งหน้ากันบ้างไหมเอ่ย

ไม่ว่าจะไปโอซาก้าช่วงไหน ก็ล้วนดีต่อใจทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ที่สำคัญคือ ในแต่ละช่วงฤดูของโอซาก้าก็จะมีเสน่ห์ของตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้เพื่อนๆได้ลองไปโอซาก้าทุกฤดูเลย

Let’s discover “Hidden Places” in Osaka!! ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวโอซาก้าในครั้งต่อไปนะ~!

 

 

*** Disclaimer: This is an advertorial article. All its content and material are provided by Advertising Agency.


บทความนี้เป็น Advertorial Content เนื้อหา ข้อมูล และรูปภาพทั้งหมดมาจากผู้สนับสนุน เว็บไซต์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบใดๆ