วัดเซ็นเนียว-จิ Sennyuji Temple
Photo by Chris Gladis from flickr.com/photos/mshades/173250583/ [CC by-nd 2.0]
วัดเซ็นเนียว-จิ(Sennyuji Temple) ตั้งอยู่บนเนินเขทางตะวันออกของเมืองเกียวโต วัดเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 อาจจะเข้าถึงยากซักนิดนึงเพราะอยู่นอกเส้นทางท่องเที่ยวหลักๆ แต่หากได้ลองเข้าไปสัมผัสแล้วจะติดใจกับบรรยากาศอันแสนสงบร่มเย็น อีกทั้งยังล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เสมือนเป็นวัดกลางป่าเขา สถาปัตยกรรมการสร้างเป็นแบบสไตล์จีนร่วมสมัยของราชวงศ์ซ่งที่ดูงดงามแฝงความเรียบง่าย เน้นใช้โครงสร้างและวัสดุด้วยไม้เป็นหลัก ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ตั้งของสุสานจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นหลายยุคหลายสมัยอีกด้วย
เดิมมีวัดนี้มีชื่อว่า โฮรินจิ (Horinji)ก่อนภายหลังจะมีการเปลี่ยนมาเป็นชื่อ เซ็นเนียว-จิ (Sennyuji) หรือที่รู้จักกันในนาม “วัดแห่งสายธาร(Temple of the gushing water)” ก่อตั้งขึ้นโดยพระที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นคือ ทสึกิโนวะ ชุนโจ (Tsukinowa Shunjo) ซึ่งก็ยังมีผู้ที่คอยสนับสนุนให้เกิดวัดแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น จักรพรรดิ เหล่าขุนนาง และตระกูลชั้นสูง ทำให้เป็นที่รู้กันว่าเป็นวัดแห่งราชวงศ์และราชวงศ์ เดิมทีเป็นเสมือนสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา แต่ได้ถูกเผาทำลายช่วงศตวรรษที่ 15 อาคารส่วนใหญ่ที่เห็นในปัจจุบันจะเป็นการสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 วัดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของด้านทิศตะวันตกของเมืองเกียวโต ที่เมื่อเข้ามาเยือนแล้วนอกจากจะได้สัมผัสถึงความเชื่อทางด้านศาสนาแล้วนั้น ยังมีบรรยากาศที่พาให้ผู้มาเยี่ยมเยือนเกิดความรู้สึกสงบทั้งใจและกาย
ที่นี่มีค่าเข้าชมจำนวนเล็กน้อยเพื่อนำรายได้มาใช้ทะนุบำรุงวัด เมื่อก้าวเข้ามายังวัดเพียงเลี้ยวซ้ายไปสิ่งแรกที่จะพบคือ ศาลเจ้าโยคิฮิ (Yokihi Kannon-do) ซึ่งเป็นศาลเจ้าขนาดเล็กที่มีรูปปั้นเทพธิดาแห่งพระพุทธศาสนาที่นำกลับมาจากประเทศจีนในปี ค.ศ.1255 มีเรื่องเล่าขานกันว่าว่าการแกะสลักรูปปั้นนี้นั้นได้สะท้อนความงดงามของหยางกุ้ยเฟยผู้เป็นสนมเอกแห่งจักรพรรดิราชวงศ์ถังอันเลื่องชื่อเรื่องความงามอย่างยิ่ง จนกระทั่งปี ค.ศ.1955 สมบัติชิ้นนี้ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ก็ได้แสดงให้สาธารณะชนได้ยลโฉม หากเดินตรงต่อไปจะเห็นวิหารหลักด้านหลังห้องโถงของพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งสองล้วนได้อิทธิพลทางสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ภายในวัดนั้นยังมีสมบัติหลายหลายชนิดที่ทั้งนำมาจัดแสดงและเก็บไว้อย่างแน่นหนา “อาทิ พระพุทธรูปทองคำที่มีส่วนหนึ่งนำมาจากพระธาตุ ซึ่งจะนำมาจัดแสดงให้ได้ชมกันเฉพาะช่วงโอกาสพิเศษเท่านั้น” รวมทั้งยังมีห้องสำหรับการพักผ่อนของจักรพรรดิที่เปิดให้สามารถเข้าไปชมได้ นอกจากนี้ยังหากเดินไปด้านหลังหอพระธาตุที่เป็นเส้นทางเล็กๆตามแนวป่าจะเป็นสุสานจักรพรรดิทั้ง 12 องค์ เจ้าหญิงโยะชิโกะ และบุคคลสำคัญของพระราชวงศ์ที่มีขั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1242
นอกจากจะได้ชื่นชมกับความงามของสถาปัตยกรรมโบราณแล้วนั้น ยังมีสวนที่ทั้งร่มรื่นและงดงามแบบแบบฉบับของญี่ปุ่น ช่วงที่งดงามมากที่สุดคือ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ต้นไม้เมเปิ้ลจะมีสีสันสดสวยให้ความรู้สึกที่สดใสเป็นพิเศษ วัดเซ็นเนียว-จิ จึงเป็นอีกวัดที่มีความน่าสนใจและมีเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ทั้งสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยมและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ หากก็มีความงดงามที่แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล
>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก เด็ด ทั่วเมืองเกียวโต อัพเดตล่าสุด <<<
▌ข้อมูลเตรียมตัวเที่ยวเกียวโตที่ต้องรู้
การเข้าชม
500 เยนต่อคน และเพิ่ม 300 เยนสำหรับเยี่ยมชมห้องพักของจักรพรรดิ
เปิดทุกวันเวลาแตกต่างกันตามเดือน ได้แก่
- ช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤศจิกายน เปิดตั้งแต่เวลา 9:00 -16:30 น.
- ช่วงเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่เวลา 9:00 -16:00 น.
ไม่มีวันหยุด
วิธีการเดินทาง
- จากสถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station) ต่อด้วยรถบัสประจำทางสาย 208 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที ลงที่ป้าย Sennyuji-michi แล้วเดินเท้าต่ออีก 10 นาที หรือ นั่งรถแท็กซี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที (ค่ารถประมาณ 1,000 เยน)
- จากสถานีรถไฟโทฟุกุจิ (Tofukuji Station) เดินเท้าไปยังวัดใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระยะทางรวม 1.2 กิโลเมตร หรือ นั่งรถแท็กซี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที